วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การจำแนกประเภทเฟินตามลักษณะนิเวศวิทยา

นักพฤษศาสตร์ จำแนกประเภทของเฟิน โดยยึดตามลักษณะของถิ่นที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม หรือนิเวศวิทยา ดังต่อไปนี้

1. กลุ่มเฟินดิน-ทนแดด (Terrestial-Sun-Ferns)
2. กลุ่มเฟินดิน-ชอบร่มเงา (Terrestial-Shade-Ferns)
3. กลุ่มเฟินเถาเลื้อย (Climbing Ferns)
4. กลุ่มเฟินเกาะอาศัย หรือไม้อากาศ (Epiphytes)
5. กลุ่มเฟินผา (Lithophytic Ferns หรือ Rock Ferns)
6. กลุ่มเฟินน้ำ (Aquatic Ferns)
7. กลุ่มเฟินภูเขา (Mountain Fern)

กลุ่มเฟินดิน-ทนแดด (Terrestial-Sun-Ferns)

เฟินในกลุ่มนี้ ในธรรมชาติพบอยู่ตามพื้นดิน ในบริเวณที่ได้รับแสงแดดจัดจ้า ตลอดวัน หรือเกือบตลอดวัน แต่มีความชุ่มชื้นในอากาศสูง ดินระบายน้ำได้ดี
ลักษณะของเฟินกลุ่มนี้ มักมีลักษณะใบหนาและมี cuticle layer ปกคลุมผิวใบด้านบน เพื่อกันการสูญเสียน้ำทางใบ เมื่อโดดแสงแดดหรือลมพัด
เฟินในกลุ่มนี้ ขอยกตัวอย่างเพียงบางชนิด พอสังเขป เช่น

โชน (dicranopteris linearis) ในภาพซ้ายมือ ถ่ายจากเนินดินข้างถนน บนเนินเขา ทางไป อ.สังขละ กาญจนบุรี สภาพแวดล้อมที่บริเวณนั้น มีความชื้นในอากาศสูง และโชนได้รับแสงแดดจัดเต็มที่ทั้งวัน

ในบริเวณนั้น นอกจากโชนแล้ว ยังพบเฟินหลังเงิน ( Pityrogrammar calomelanos ) เฟินสามร้อยยอด ( Lycopodiella cernuum ) ซึ่งจัดเป็นญาติของเฟิน (Fern Allied) และ กูดดอย ( Bleachnum oriental ) ก็พบมากทั่วประเทศ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาดินปนหิน และบริเวณเชิงเขาทั่วไปและอีกหลายชนิดที่ขึ้นอยู่รวมๆ กัน

เห็นได้ชัดว่า เฟินเหล่านี้มีประโยชน์ในแง่ของการอนุรักษ์หน้าดิน ป้องกันการชะล้างพังทะลายของหน้าดินอีกด้วย
กลุ่มเฟินดิน-ชอบร่มเงา (Terrestial-Shade-Ferns)
เฟินกลุ่มนี้ ในธรรมชาติจะพบอยู่ตามพื้นดิน ในบริเวณที่ได้รับแสงน้อย หรือแสงแดดรำไร ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ในอากาศมีความชื้นสูง อุณหภูมิของพื้นดินไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อย่างเช่นในป่าดิบชื้น ซึ่งเฟินระดับพื้นดินด้านล่างจะได้รับแสงน้อย ไม่มีลมพัดแรง
ลักษณะเฟินในกลุ่มนี้ส่วนมาก มักมีใบบาง และในบางชนิด มีใบปกติ (sterile frond) กับใบสปอร์ (fertile frond) มีลักษณะไม่เหมือนกัน คือ ใบสปอร์มักผอมเรียวและก้านใบยาวกว่าใบปกติ เพื่อให้อับสปอร์สามารถกระจายพันธุ์ไปได้ไกล
เฟินบางชนิด จัดอยู่ได้ทั้งกลุ่มทั้งเฟินดินทนแดด กับเฟินดินชอบร่ม ตัวอย่างเช่น เฟินนาคราช

ตัวอย่างหนึ่ง เฟินดิน ชอบร่มเงา เช่น เฟินลูกไก่ดำ หรือ กูดกบ ( Pleocnemia irrecgularis ) เราจะพบได้ตามพื้นในป่า อยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ที่มีแสงแดดส่องลอดผ่านลงมาบ้างในบางชั่วโมง แต่ไม่ถึงกับแดดจัดจ้าตลอดวัน
เฟินบางชนิด เราอาจพบได้ในบริเวณที่ร่มสนิท แดดส่องลงมาไม่ถึง มีเพียงแสงสว่างเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เฟินกีบแรด ( Angiopteris evecta ) เฟินหางหงษ์ ( Bolbitis heterocrita ) เฟินใบตำลึงหรือใบองุ่น ( Doryopteris ludens ) เหล่านี้เป็นต้น

กลุ่มเฟินเถาเลื้อย (Climbing Ferns)

เฟินกลุ่มนี้ จะพบเลื้อยพันเกาะอยู่ตามต้นไม้ โดยสปอร์เริ่มงอกจากบนดินก่อน จากนั้นจะเติบดตปีนเลื้อยเกี่ยวพันปีนขึ้นไปบนต้นไม้ เพื่อรับแสงแดดที่อยู่ข้างบน แต่ระบบรากยังคงดูดน้ำและแร่ธาตุอาหารจากพื้นดินเป็นหลัก เฟินเลื้อยมีทั้งชนิดที่ต้องการร่ม และชนิดที่ต้องการแดดจัด

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดของเฟินประเภทนี้ คือ ย่านลิเภา ในสกุล Lygodium sp. ที่เราเคยได้ยินชื่อกันบ่อยๆ จากงานหัตถรรมเครื่องจักสาน กระเป๋าลิเภา เป็นต้น ย่านลิเภา มีเหง้าลำต้นอยู่ในดิน ส่วนที่เห็นเป็นเถานั้น เป็นส่วนของใบที่พัฒนาต่อยอดขึ้นไป เพื่อเกี่ยวเกาะต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ขึ้นไปหาแสงแดดที่อยู่ด้านบน

กลุ่มเฟินเกาะอาศัย หรือไม้อากาศ (Epiphytes)

เฟินกลุ่มนี้ เจริญเติบโตอยู่บนต้นไม้ แต่ไม่ได้เป็นประเภทกาฝาก (parasite) เพราะอาศัยเกาะอยู่ตามกิ่งตามลำต้นของต้นไม้ รากจะเกาะอยู่เฉพาะที่ผิวหรือเปลือกไม้เท่านั้น ไม่ได้ไชรากเข้าไปแย่งอาหารและน้ำจากต้นไม้ที่ยึดเกาะ แต่ได้จากเศษเปลือกไม้ ใบไม้ ลูกไม้ ที่หล่นทับถมลงมา และมักพบเฟินจำพวกนี้อาศัยอยู่รวมกับพวกมอส ซึ่งจะช่วยกันรักษาความชื้นให้กันและกัน

เฟินในกลุ่มนี้ บางชนิดชอบอยู่ร่ม และบางชนิดที่ชอบแดดจัด และมีการพัฒนาปรับตัว เพื่อดำรงชีวิตเกาะอยู่บนต้นไม้แตกต่างกันไป

ในกลุ่มที่ชอบร่มเงา มักจะอยู่ตามส่วนล่างของลำต้นไม้ใหญ่ หรืออยูใกล้ลำธาร ใกล้น้ำตก หรือในป่าดงดิบ ที่มีเมฑหมอกปกคลุม
มีการพัฒนาปรับตัวรูปแบบต่างๆ กัน บางชนิดปรับตัวได้ดี เมื่อถึงฤดูแล้ง ด้วยการงอหรือหุบใบลง เพื่อป้องกันสูญเสียน้ำจากการคายน้ำ

ในกลุ่มที่ชอบแสงมาก บางชนิดพัฒนาใบเป็นใบหนาอวบน้ำและผิวใบมัน เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง สังเกตุเฟินในกลุ่มนี้ มีระบบรากเป็นขนฟูเหมือนฟองน้ำ เพื่อช่วยกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งได้อีกด้วย
ในบางชนิด มีการพัฒนาปรับตัวให้สามารถทนทานต่อสภาพในฤดูแล้งได้ดีในหลายๆ รูปแบบ ตัวอย่าง เช่น เฟินข้าหลวง เฟินชายฟ้าสีดา กระแตไต่ไม้ เฟินเจ้างูเขียว และเกล็ดนาคราช เหล่านี้เป็นต้น
กลุ่มเฟินผา (Lithophytic Ferns หรือ Rock Ferns)


กลุ่มเฟินผา จะเป็นกลุ่มที่เจิรญเติบโตเฉพาะบนหิน โขดหิน หรือตามหน้าผา เท่านั้น จะไม่พบเฟินกลุ่มนี้ไปเจริญเติบโตบนไม้ใหญ่อย่างเฟินเกาะอาศัย ซึ่งต่างจากเฟินเกาะอาศัยบางชนิด สามารถปรับตัวอยู่บนไม้ใหญ่ หรือบนหินแบบเฟินผาได้
ลักษณะเฉพาะที่สำคัญของเฟินกลุ่มนี้ คือ ระบบรากของเฟินกลุ่มนี้ที่แผ่เกาะอยู่กับหินนั้น ต้องการการถ่ายเทของอากาศได้ดี และน้ำไม่ขังแฉะ
เฟินกลุ่มนี้ จะปรับตัวเองเพื่อให้เข้าสภาพแวดล้อมในแต่ละฤดูกาล อย่างเช่น ในช่วงฤดูแล้ง มันจะพักตัว ด้วยการทิ้งใบ หรือห่อใบเอาไว้ เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำจากลำต้น หรือพัฒนาระบบรากให้เป็นฟองน้ำ เพื่อดูดซับความชื้นจากอากาศเอาไว้
กลุ่มเฟินน้ำ (Aquatic Ferns)


เฟินบางชนิด เป็นพืชน้ำ มีทั้งชนิดที่ลอยอยู่ตามผิวน้ำ และชนิดที่ขึ้นอยู่กับดินโคลนตามแหล่งน้ำขังตื้นๆ หรือตามริมตลิ่งก็มี
บางชนิด ที่เราเคยพบเห็นกันทั่วไป และมีหลายคนอาจไม่เคยนึกมาก่อนว่า เป็นพวกเฟิน อย่างเช่น แหนแดง (Azolla pinnata) จอกหูหนู (Salvinia cucullata) ผักแว่น (Marsilea crenata) เฟินขาเขียดน้ำหรือกูดกวาง (Ceratopteris thalictroides) ปรงไข่ ปรงหนู (Acrostichum
กลุ่มเฟินภูเขา (Mountain Fern)
เฟินภูเขา เป็นเฟินที่อยู่้ในป่าตามภูเขา ที่มีลักษณะป่าเป็นป่าทึบสมบูรณ์ มีความชุ่มชื้นสูง ได้รับไอน้ำจากเมฆและหมอกที่ปกคลุม อีกทั้งเทือกเขาสูงที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหรือน้ำตก

ตัวอย่างเฟินประเภทนี้ได้แก่ เฟินในกลุ่มนี้ เช่น กูดต้น หรือ Tree Fern ในสกุล Cyathea เฟินออสมัดา ในสกุล Osmunda เฟินบัวแฉก ในสกุล Dipeteris เฟินกูดเกี๋ยะ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น
เฟินในประเภทนี้ จะพบเห็นได้บ่อย ตามเทอกเขาสูง เช่น ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างข่าง ดอยเชียงดาว ภูหลวง ภูเรือ ภูกระดึง เขาใหญ่-โคราช เขาสอยดาว-จันทบุรี เขาหลวง-นครศรีธรรมราช และอีกหลายๆ แห่งในไทย
แต่สำหรับการนำมาปลูกเลี้ยงบนพื้นราบ ค่อนข้างจะรอดได้ยาก หรืออาจไม่งามเท่าที่ควร อันเนื่องมาจากความชุ่มชื้นในบรรยากาศไม่เพียงพอ ประกอบกับความกดอากาศ ก็มีผลด้วยเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น